ค้นหา

Q&A : โดนเบี้ยวค่านายหน้าขายที่ดิน ฟ้องร้องได้หรือไม่?

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 – 849, 193/30

“นายหน้า” คือใคร มีลักษณะอย่างไร?

1. นายหน้าเป็นตัวกลางที่ช่วย “ชี้ช่อง” หรือ “จัดการ” ให้บุคคลอื่นได้เข้าทำสัญญากัน นายหน้าไม่มีอำนาจที่จะเข้าไปกระทำการแทนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือเข้าไปทำสัญญาแทนคู่สัญญา
2. นายหน้าเป็นสัญญาชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่มีบทบังคับว่าต้องทำสัญญาเป็นหนังสือหรือต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนั้น “สัญญานายหน้าจะตกลงกันเป็นหนังสือหรือด้วยวาจาก็ได้”
3. เมื่อนายหน้า “ได้ชี้ช่องหรือจัดการให้คู่สัญญาทำสัญญากันแล้ว นายหน้าย่อมมีสิทธิได้รับบำเหน็จ”
(ค่าตอบแทน) แม้ต่อมาคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะผิดสัญญาหรือเลิกสัญญาที่ทำไว้ก็ตาม

สัญญานายหน้า ตามปกติต้องถือว่ามีบำเหน็จ (ค่าตอบแทน) แม้จะไม่มีข้อตกลงกันไว้ในสัญญาว่าต้องเสียค่าบำเหน็จนายหน้าเท่าใด ต้องถือว่าได้ตกลงกันเป็นจำนวนตามธรรมเนียม คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2199/2535

#สิทธิของนายหน้า

1. มีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จ (ค่าตอบแทน) เนื่องจากการทำหน้าที่ชี้ช่องหรือจัดการให้บุคคลได้เข้าทำสัญญากัน
2. มีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายที่เสียไป ถ้าได้ตกลงกันไว้ให้เรียกค่าใช้จ่ายที่เสียไปไว้ล่วงหน้า แม้ว่าสัญญาจะไม่ได้กระทำสำเร็จ

#สัญญานายหน้าไม่ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ฟ้องบังคับกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4352/2545  
โจทก์ติดต่อกับจำเลยและเจ้าของที่ดินทั้ง 4 แปลง เรื่องการเช่าและซื้อขายที่ดินดังกล่าว
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เจรจาติดต่อกันนั้นได้ใช้บ้าน ร. มารดาจำเลยเป็นสถานที่นัดพบเสมอทั้ง ร. ก็ร่วมเจรจาอยู่ด้วย แม้บางครั้งจำเลยไม่มาแต่ ร. ก็เป็นผู้จัดการแทนจำเลยเพื่อนำไปสู่การทำสัญญาในที่สุด ดังนั้น ข้อตกลงใดๆที่อยู่ในกรอบของการเช่าหรือซื้อขายที่ดินของจำเลยย่อมเห็นเป็นปริยายว่า จำเลยได้เชิด ร. เป็นตัวแทนในการเจรจาตกลงกับโจทก์ ทำให้เจ้าของที่ดินอีก 4 แปลง ตกลงยินยอมให้เช่าและขายที่ดินเรื่องค่านายหน้าก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง ด้วยแม้มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือก็มีผลผูกพันจำเลยแล้ว ดังนั้น จำเลยต้องให้ค่านายหน้า และเงินค่าที่ดินที่ให้เช่าหรือขายเกินกว่าราคาที่กำหนดแก่โจทก์

* ถ้าการชี้ช่องหรือจัดการให้ได้เข้าทำสัญญายังไม่เป็นผลสำเร็จ ก็ไม่มีสิทธิได้ค่านายหน้า แม้ต่อมาคู่สัญญาจะตกลงกันทำสัญญาใหม่เป็นสัญญาร่วมลงทุน แต่ก็ไม่ใช่สัญญาที่ได้เข้าทำโดยการชี้ช่องหรือจัดการของนายหน้าแต่อย่างใด ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5335/2550 และ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7550/2550

#อายุความฟ้องเรียกค่านายหน้า มีอายุความ 10 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6952/2552  
โจทก์ฟ้องเรียกค่าบำเหน็จและเงินส่วนเกินตามสัญญานายหน้าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 มิได้ฟ้องเรียกเอาสินจ้างจากการรับทำการงาน สิทธิเรียกร้องดังกล่าวมิได้มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความทั่วไปซึ่งมีกำหนด 10 ปี ตามมาตรา 193/30

อ้างอิง : ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 – 849, 193/30

เสียงความรู้กฎหมาย ตอนที่ 295 ค้างค่านายหน้าขายที่ฟ้องได้ใน 10 ปี