ผู้เขียน ดร.ธีร์รัฐ บุนนาค
“ประมวลกฎหมายยาเสพติด..” กฎหมายใหม่นี้ ผ่านสภาฯ เมื่อปลาย ส.ค. 64 ขณะนี้ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว.. มีผลใน 30 วัน
มีข้อพิจารณา ที่ฝ่ายวิชาการของศาลจัดทำเพื่อประกอบการพิจารณาคดีของศาล….แม้ไม่ใช่กฎหมาย และศาลไม่จำต้องเห็นด้วย…แต่ก็เป็นแนวทางที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใคร่รู้บ้าง.. จึงนำมาเผยแพร่ครับ…
กฎหมายใหม่ ให้ยกเลิกกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด เกือบทุกฉบับ.. และมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญๆ เช่น เปลี่ยน : ข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็น “ครอบครอง”.. เปลี่ยน : ข้อหาครอบครอง เป็น “ครอบครองเพื่อเสพ”..
ยกเลิก : การให้.. คือ จำหน่าย.. ยกเลิก : โทษขั้นต่ำ 4 ปี ในข้อหาจำหน่าย ครอบครองเพื่อจำหน่าย..
ยกเลิก : ครอบครองเกิน 15 เม็ด/ 375 mg สันนิษฐานว่าครอบครองเพื่อจำหน่าย.. (จำเลยต้องนำสืบแก้) แก้ไขใหม่เป็น.. ครอบครองไม่เกินจำนวนปริมาณที่กำหนด สันนิษฐานว่าครอบครองเพื่อเสพ.. (โจทก์ต้องสืบว่า ไม่ใช่เพื่อเสพ)
ยกเลิก : แนวคิดกำหนดโทษสูงขึ้นตามปริมาณสารบริสุทธิ์.. สำหรับข้อหาผลิต นำเข้า ส่งออก ครอบครอง จำหน่าย.. แก้ไขเป็น.. โทษสูงขึ้นตามพฤติการณ์ความร้ายแรง..(ม. 141) เช่น จำหน่ายให้เด็ก ในวัด หรือมีอาวุธ.. แบ่งโทษ เป็น 3 ระดับ ดังนี้.. 1) ไม่มีพฤติการณ์ร้ายแรง จำคุกไม่เกิน 15 ปี 2) พฤติการณ์ร้ายแรง จำคุก 2 ปี – 20 ปี 3) พฤติการณ์ร้ายแรงมาก จำคุก 5 ปี – ตลอดชีวิต/ ประหารชีวิต..
ยกเลิก : ระบบพนักงานสอบสวนนำผู้เสพมาให้ศาลส่งตรวจพิสูจน์.. แก้ไขใหม่เป็น.. ผู้จับนำตัวผู้เสพที่สมัครใจส่งสถานบำบัดได้โดยตรง.. และระบบให้ศาลส่งสถานบำบัดได้ เมื่อจำเลยสมัครใจ..
สรุปว่า.. กฎหมายใหม่ ลดความเป็นอาชญากรรมลง (decriminalization).. และกำหนดโทษได้สัดส่วนกับความผิดมากกว่าเดิม.. ทำให้จำเลยได้รับความเป็นธรรมในการลงโทษมากขึ้น.. ส่วนแนวคิดในการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามารับผิดชอบแทนกรมคุมประพฤติ.. จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีแค่ไหน.. ระบบที่ให้ผู้จับกุม ส่งผู้เสพไปบำบัดได้โดยตรง โดยไม่ผ่านศาลตรวจสอบ.. จะมีข้อขัดข้องอะไรหรือไม่.. ผลจะเป็นอย่างไร เรามารอดูกัน..
อ้างอิงจาก https://www.facebook.com/1073776970/posts/10223180514195886/