ค้นหา

พบรักออนไลน์ Romance Scam ระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

Romance Scam คือ การหลอกให้หลงรัก หลอกให้เชื่อว่ารัก หลอกให้เชื่อใจ ให้ความหวังว่าจะแต่งงาน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตลอดไป และใช้ความรักความเชื่อใจหรือความหวังของเหยื่อเพื่อแสวงหาประโยชน์ โดยหลอกให้โอนเงินหรือทรัพย์สินอื่น ๆ ไปให้ หลอกให้กระทำผิด เมื่อเหยื่อเริ่มรู้ตัว คนร้ายก็จะหนีหาย ทิ้งให้เหยื่อเสียทั้งเงินและเสียทั้งใจ

วิธีสังเกตลักษณะมิจฉาชีพ

  1. มักจะใช้รูปภาพของบุคคลอื่นที่ดูดี หล่อ สวย น่าเชื่อถือ แต่งกายภูมิฐานหรือภาพคนในเครื่องแบบ เช่น นักธุรกิจ ทหาร แพทย์ วิศวกร ฯลฯ
  2. แอบอ้างเป็นบุคคลในรูป ใช้ข้อมูลของบุคคลจริงในรูป หรือสร้างตัวตนใหม่ โดยใช้รูปคนอื่น แต่งเรื่องราวให้ดูน่าเชื่อถือ เพื่อให้เหยื่อเชื่อใจจากภาพลักษณ์ที่เห็น  
  3. มีสถานะในโลกออนไลน์เป็นคนโสด หรือเคยแต่งงาน แต่ภรรยาเสียชีวิตหรือหย่าร้าง
  4. แฝงตัวอยู่ในโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันหาคู่ และติดต่อพูดคุยกับเหยื่อได้ทุกช่องทาง เช่น อีเมล เฟซบุ๊ก ไลน์  เมสเซนเจอร์ ฯลฯ
  5. เข้ามาพูดคุย ตีสนิท หรือจีบ โดยเล่าเรื่องราวที่แต่งขึ้นให้ได้รับความไว้วางใจจากเหยื่อ หลอกถามข้อมูลส่วนตัว เพื่อประเมินจุดอ่อนของเหยื่อ
  6. ทำให้รัก และสร้างสัญญา โดยบอกว่าจะแต่งงาน หรือในระยะยาวจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน

เหยื่อที่มักถูกหลอก

  1. คนทั่วไปที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
  2. สถานะโสด/หย่าร้าง/เป็นม่าย
  3. ผู้สูงอายุ/เกษียณที่อยู่ลำพัง มีเวลาว่าง และขาดการดูแลใกล้ชิดจากบุตรหลาน
  4. สาวหรือหนุ่มใหญ่ที่กำลังมองหารักแท้หรือหาคู่

พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจตกเป็นเหยื่อ

  1. ไม่ระแวดระวังตนเอง มองโลกในแง่ดีเกินไป
  2. เชื่อคนง่าย และเปิดโอกาสให้ที่ไม่รู้จักเข้ามาพูดคุยสร้างสัมพันธ์ได้ง่าย
  3. มีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ใส่ข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่าย อัปเดตชีวิตประจำวันบนสื่อโซเชียลมีเดีย หรือเว็บหาคู่ และตั้ง status เป็นสาธารณะ

รูปแบบการหลอกของ Romance Scam

  • หว่านล้อมด้วยคำพูดทำให้หลงรัก เช่น ถูกชะตาเมื่อแรกเห็นภาพในโปรไฟล์ ยิ่งพูดคุยยิ่งรัก กำลังมองหารักแท้ที่จะมาลงหลักปักฐานใช้ชีวิตร่วมกันในบั้นปลาย จะหอบเงินเกษียณหรือจากการทำธุรกิจเดินทางมาหาหรือแต่งงานด้วย แต่ติดขัดเรื่องการโอนถ่ายสมบัติ ต้องให้เหยื่อโอนเงินไปช่วยค่าดำเนินการ ค่าค้ำประกัน ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าธรรมเนียม เหยื่อหลงเชื่อเพราะรักจึงโอนเงินไปให้
  • หลอกว่าเป็นนักธุรกิจ/นักลงทุน/มหาเศรษฐี แอบอ้างว่าต้องการหาคนมาร่วมลงทุนด้วยและหลอกให้เหยื่อโอนเงินไปร่วมและใช้ผลตอบแทนที่มีราคาสูงมาเป็นสิ่งหลอกล่อให้เหยื่อเชื่อและร่วมลงทุนเมื่อได้เงินจากเหยื่อแล้ว ก็จะหนีหายและไม่สามารถติดต่อได้อีก
  • หลอกว่าจะส่งของขวัญ/สิ่งของที่มีราคาสูงมาให้ แอบอ้างกับเหยื่อว่าจะมีการส่งของขวัญราคาแพงให้กับเหยื่อในโอกาสต่างๆ และใช้อุบายว่าติดปัญหาไม่สามารถส่งไปได้ เช่น การขนส่งไม่ผ่านด่านตรวจจึงต้องใช้เงิน มิจฉาชีพก็จะหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้
  • หลอกโดยใช้ความเห็นใจของเหยื่อ สร้างเรื่องราวขึ้นมาเพื่อหลอกเหยื่อ เช่น หลอกว่าคนในครอบครัวป่วย หลอกว่าตนเองพบปัญหาการเงินและมีความจำเป็นต้องใช้เงินด่วน เหยื่อก็จะเห็นใจคนที่ตนรักและยินยอมให้ความช่วยเหลือ โดยการโอนเงินหรือทรัพย์สินไปให้
  • หลอกชวนลงทุนออนไลน์ หลอกคบหากับเหยื่อ เมื่อเหยื่อเชื่อใจแล้วจะหลอกชวนให้ลงทุนออนไลน์หรือซื้อขายคลิปโท โดยเริ่มจาก exchange ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของทางการ ต่อมาจะหลอกให้โอนคริปโทไปยังแอปพลิเคชันของมิจฉาชีพ เมื่อเหยื่อหลงเชื่อและนำเงินไปลงมากขึ้น ก็จะเริ่มเกิดปัญหา ทำให้ถอนเงินไม่ได้ มิจฉาชีพจะลบแอคเค้าท์หนีหายไป
  • หลอกให้รักแล้วแบล็คเมล์ ขู่กรรโชกทางเพศ ด้วยการชวนทำกิจกรรมทางเพศผ่านทางออนไลน์ แล้วนำภาพหรือวิดีโอมาขู่เรียกค่าไถ่ หรือบีบบังคับให้กระทำการอื่นๆ เช่น ขนส่งยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย ปลอมแปลงเอกสาร เปิดบัญชีม้า
  • ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มหยอดคำหวาน หลอกให้รัก เหยื่อเชื่อใจ จนสามารถหลอกให้เหยื่อโอนเงินได้สำเร็จ เฉลี่ยอยู่ที่ 7 – 30 วัน * หากใครกำลังเจอแบบนี้อยู่ ให้ตั้งสมมติฐานเอาไว้ก่อนว่าเขาอาจเป็นมิจฉาชีพ

รู้ทันก่อนตกเป็นเหยื่อ

  1. หากพูดคุยกับคนแปลกหน้าในสื่อออนไลน์ ควรตรวจสอบว่ามีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ และเป็นบุคคลตามที่บอกไว้จริงหรือไม่ วิธีตรวจสอบ : ดาวน์โหลดภาพโปร์ไฟล์นำไปสืบค้นจากเว็บไซต์ https://images.google.com หากพบว่ารูปโปรไฟล์ที่ใช้เป็นรูปของบุคคลอื่น สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าเป็นมิจฉาชีพ
  2. หากเป็นมิจฉาชีพมักใช้บัญชีโปรไฟล์ปลอมที่สร้างขึ้นมาใหม่ มีเพื่อนน้อยมากหรือไม่มีเลยสักคน มีภาพกิจกรรม การติดต่อ หรือโพสต์น้อยมาก
  3. อย่าโอนเงินให้ใครโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะคนที่รู้จักทางออนไลน์ อย่าคิดว่าจะได้เงินคืน ตระหนักอยู่เสมอว่าไม่มีของฟรีในโลก
  4. ควรระมัดระวังไม่หลงเชื่อคนแปกลหน้าในโซเชียลมีเดีย ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่น ไม่ใส่ข้อมูลส่วนตัวลงบนสื่อออนไลน์ ไม่ตั้ง status เป็นสาธารณะ
  5. ตั้งค่าป้องกันการถูกขโมยตัวตนและข้อมูลสำคัญในบัญชีออนไลน์ต่างๆ โดยการใช้พาสเวิร์ดที่มีความมั่นคงปลอดภัย คาดเดาได้ยาก

หากตกเป็นเหยื่อของ Romance Scam ต้องทำอย่างไร

  1. เก็บหลักฐานการโอนเงิน ภาพข้อความการพูดคุยกับมิจฉาชีพ ชื่อบัญชี ภาพโปรไฟล์ และข้อมูลของมิจฉาชีพไว้ให้มากที่สุด
  2. ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีหรือโทร 191 หรือสายด่วนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 1599 หรือแจ้งความออนไลน์ได้ทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com 

ฐานความผิดที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย

  1. ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (1) : การกระทำทุจริต หรือหลอกลวง นำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอมหรือเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง อันไม่ใช่ความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา โทษ : จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  2. ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 ประมวลกฎหมายอาญา : การกระทำทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความเท็จ หรือปกปิดความจริง และหลอกลวงให้ได้ทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสาร สิทธิ หลอกให้โอนเงินด้วยความรักโทษ : จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  3. ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 342 ประมวลกฎหมายอาญา โดยปลอมเป็นคนอื่น อาศัยความเป็นเด็ก/ความอ่อนแอทางจิตของผู้ถูกหลอก โทษ : จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  4. ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 ประมวลกฎหมายอาญา : การข้อความเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดความจริง ตามาตรา 341 โทษ : จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ้างอิง

  1. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม
  2. ประมวลกฎหมายอาญา