ความผิดที่กระทำแล้วมีผลกระทบต่อผู้ถูกกระทำโดยตรงเท่านั้นผู้ถูกกระทำหรือผู้เสียหายตามกฎหมายต้องร้องทุกข์ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด มิฉะนั้นสิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องจะระงับหรือหมดอายุความ
หลักการทางกฎหมาย ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 กำหนดว่า ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้ผู้อื่นเสียหาย ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยความผิดต่อส่วนตัวมักเกี่ยวข้องกับการกระทำโดยจงใจ
องค์ประกอบของความรับผิด:
- มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย
- เกิดความเสียหาย
- มีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างการกระทำและความเสียหาย
- มีความจงใจหรือความประมาท
ความผิดต่อส่วนตัวเป็นการกระทำที่ :
- กระทบต่อตัวบุคคลโดยตรง – เป้าหมายของการกระทำผิดคือตัวบุคคล ไม่ใช่ทรัพย์สินหรือสิ่งของ
- มีความเสียหายต่อสิทธิส่วนบุคคล – กระทบต่อสิทธิที่ติดตัวบุคคล เช่น สิทธิในร่างกาย ชื่อเสียง เกียรติคุณ ความเป็นส่วนตัว
- ก่อให้เกิดความเสียหาย ทั้งทางกายและทางใจ
- ผู้กระทำต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ตามหลักการแพ่ง
- อาจเป็นทั้งความผิดอาญาและแพ่ง – การกระทำเดียวกันอาจผิดทั้งกฎหมายอาญาและแพ่งพร้อมกัน แต่การเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเรื่องของกฎหมายแพ่ง
ประเภทของความผิดต่อส่วนตัว
- ความผิดต่อบุคคล รวมถึงการทำร้ายร่างกาย การคุกคาม การกักขัง หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในร่างกายและความปลอดภัยของบุคคล
- ความผิดต่อชื่อเสียง ครอบคลุมการหมิ่นประมาท การใส่ร้าย หรือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบุคคล
- ความผิดต่อความเป็นส่วนตัว เช่น การล่วงล้ำเข้าไปในที่อยู่อาศัย การดักฟังหรือบันทึกเสียง การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่าง
นาย A เล่าเรื่องของนาย C ให้นาย B ฟัง หรือโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียของตัวเองว่า “นาย C ลักทรัพย์ผม” กรณีนี้ นาย A ก็นินทานาย C เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนาย C เช่นกัน
แต่ผลทางกฎหมายจะแตกต่างกันออกไปจากตัวอย่างแรก เพราะว่าการนินทานี้มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้ นาย C เสียชื่อเสียงว่าเป็นมิจฉาชีพ ถูกดูหมิ่นว่าเป็นคนไม่มีศีลธรรม หรือถูกเกลียดชังจากคนในสังคม เพราะฉะนั้นการนินทาของ นาย A นี้ จึงเป็น ความผิดฐานหมิ่นประมาท

การเยียวยา
ผู้เสียหายสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หลายประเภท ได้แก่ ค่าเสียหายทางการเงิน ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายทางจิตใจ และในบางกรณีอาจขอให้ศาลสั่งหยุดการกระทำที่เป็นการละเมิด กฎหมายให้ความคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคลอย่างกว้างขวาง และในปัจจุบัน ประเด็นเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวทางออนไลน์ก็มีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ความผิดต่อส่วนตัวจึงเป็นแนวคิดทางกฎหมายที่มุ่งคุ้มครองศักดิ์ศรีและสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ โดยให้สิทธิผู้เสียหายในการเรียกร้องการเยียวยาที่เหมาะสม
อ้างอิง :
1. พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และแก้ไขเพิ่มเติม
2. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 และมาตรา 328