- This topic has 14 ข้อความตอบกลับ, 1 เสียง, and was last updated 3 years, 11 months มาแล้ว by กลุ่มสื่อสารองค์กร.
-
ผู้เขียนข้อความ
-
สมมุติเราตายโดยไม่มีทายาทใครจะได้รับมรดก
อย่างเรามีบ้านมีรถ มีทรัพย์สินเป็นของเรา โดยไม่มีหนี้ ไม่มีผ่อนใดๆ
และไม่มีทายาท ไม่ได้แต่งงาน แต่มีบริษัท มีคนงาน ลูกจ้าง คนรับใช้ ๆลๆ
อยากถามเป็น 2 ข้อดังนี้ค่ะ
1.แบบไม่มีญาติ ไม่มีผู้ใดเลย แต่มีทุกอย่างที่ว่ามา และมีคนงานลูกจ้าง สมมุติถ้าเราตายลูกจ้าง อาจจั ไม่รู้
2.ไม่มีญาติ และไม่ได้ติดต่อกัน ญาติทางฝ่ายพ่อแม่ก้ไม่มี สมมุติเราตาย เขาคงไม่รู้ว่าเราตาย เพราะไม่ได้ติดต่อใคร(ทางรัฐ จะตามหาญาติ หรือแค่ติดประกาศให้ญาติมาแสดงตัวคะ)
ทั้ง 2 กรณีใครจะเป็นผู้รับมรดกคะ ลูกจ้าง ขอยื่นรับได้ไหม หรือ เรื่องจะเป็นไปในขั้นตอนยังไงบ้างคะ หรือมรดกจะตกเป็นของรัฐคะ เพราะเรามีมากเสียดายที่ไม่สามารถนำไปได้ เราควรทำอย่างไรดีกฎหมายเขียนไว้ว่าถ้าไม่มีทายาทหรือไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ทรัพย์มรดกจะตกแก่แผ่นดินค่ะ แต่นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าแผ่นดินคือรัฐจะเข้ามาจัดการกับทรัพย์มรดกของคุณอย่างไรเพื่อให้ตกเป็นของรัฐ ทางที่ดีที่สุดเขียนพินัยกรรมไว้ดีกว่าว่าจะยกให้ใคร และตราบที่ยังไม่ตายเราก็เปลี่ยนชื่อผู้รับพินัยกรรมไปได้เรื่อยๆ เช่นปีนี้ยกให้นางเอ ต่อมาไม่พอใจนางเอ ก็ฉีกพินัยกรรมทิ้งเขียนใหม่ยกให้นางบี (การเขียนพินัยกรรมเสริชกูเกิ้ลได้เลย)
ทำพินัยกรรมยกให้มูลนิธิการกุศลต่างๆ ที่เราเลือก
ได้บุญครับอยากให้ใครก็ทำพินัยกรรมให้ค่ะ
เราไปทำที่อำเภอ เจ้าหน้าที่กรอกให้
ตั้งผู้จัดการมรดกค่ะ
เอาพินัยกรรมไว้ที่ผจกท้ายสุดถ้า ลำดับญาติแล้วไม่มีคนรับ จะตกเป็นของรัฐ
ส่วนลูกจ้างมารับได้มั้ยไม่แน่ใจ แต่ถ้าอยากให้ ก็ทำพินัยกรรมแล้วระบุไปเลยจ้า
นี่สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าคุณจะมีทรัพย์มาเพียงใด ตายไปก็จบ
แต่ถ้าอยากมีแบบนี้อีกในทุกๆชาติจนกว่าจะไม่ต้องมาวนเกิดอีก
ทางเดียวเลยครับ ทำบุญสะสมไว้ บุญจะตามไปทุกที่ ทุกภาค/ภพ/ภูมิ ไม่ต้องกลัวหาย ไม่มีใครขโมยไปได้ตอนมีชีวิต ทำเรื่อยทำบ่อยๆ จากที่พูดมีเงินอยู่แล้วหนิ(สำหรับท่านอื่นตามกำลังนะ)
ก่อนตายทำพินัยกรรมจะมอบอะไรให้ใคร แจกแจงไว้ ถือเป็นการทำบุญรอบสุดท้ายเคล็ดลับรวยทุกชาติ อ่านในข้อความซ่อน ไม่ยากเลยสำหรับคนมีเงิน
ไม่ต้องห่วงเรื่องสมบัติ มีคนมาช่วยใช้เงินให้อยู่แล้ว
ญาติห่างๆที่คุณไม่เคยรู้จัก จะมาช่วยคุณใช้เงิน
ตั้งตนเป็นผู้จัดการมรดก นำส่งภาษีให้รัฐเสร็จสรรพเพราะหากภาษีค้างไว้นาน รัฐจะนำสิ่งนั้นขายทอดตลาด นำรายได้มาชำระค่าภาษี
แต่กรณีมีหนี้ล้นพ้น ทายาทที่รับมรดกหนี้จะรับผิดชอบหนี้ไม่เกินมูลค่าของมรดกที่ได้รับ
ตายแล้วเราก็ไม่รับรู้ละครับ อย่าได้ไปกังวลอะไร
ถ้ายังกังวลก็ไปทำพวก mortgageหากจะกังวลเพราะเสียดายทรัพย์สินที่เอาติดตัวไปไม่ได้ยามสิ้นชีวิตแล้วละก้อ
( ระวังจิตสุดท้ายที่ยึดติด สำคัญมากนะครับ )
ใช้โอกาสยามที่มีชีวิตอยู่สร้างบุญกุศลให้มากที่สุดน่าจะเป็นหนทางที่ประเสริฐกว่า
บุญกุศลย่อมติดตัวไปทุกภพทุกชาติอยู่แล้วครับในขนาดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็เขียนพินัยกรรมไว้มอบให้ผู้ที่เราต้องการจะมอบให้ในเวลาที่เราจากไป
เราชอบทำกับคนใกล้ตัวค่ะ บางทีก็แม่ที่ป่วยติดเตียงของน้องที่ทำงาน ลูกเล็กของคนรู้จัก เมื่อก่อนคนแปลกหน้าที่ผ่านไปมา เห็นยายเรานั่งอยู่หน้าบ้านก็เข้ามาคุย เอาเงินใส่มือให้ ตอนนั้นไม่เข้าใจ แต่ตอนนี้พอไม่มียายแล้วก็เริ่มเข้าใจ
เริ่มที่คนงานของคุณเลยค่ะ คนที่เป็นกำลังช่วยให้คุณมีวันนี้ คงเคยเกื้อหนุนกันมาก่อน แบ่งให้เค้า ให้พ่อแม่ลูกเค้า ทำตอนนี้ ตอนที่คุณมองเห็นรับรู้นี่แหละ
สมัยก่อนนิยมถวายวัดเป็นพุทธบูชา เพื่อจะได้ผลบุญนี้ไปสู่สุคติชาติหน้าครับ
ชีวิตยังไม่เข้านิพพาน ต้องเวียนว่ายตายเกิดกันไปอีกนานเขียนพินัยกรรม จ้างสำนักทนายความก็ได้ ขอยกให้มูลนิธิ วัด การกุศุลอะไรก็ได้ ตายไปจะได้ไม่ต้องห่วง
เราทำพินัยกรรมใว้ค่ะ
ยกให้ พี่ๆน้องๆ
เพราะเราไม่มีลูก -
ผู้เขียนข้อความ
- คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อตอบกลับกระทู้นี้