สื่อเสียงความรู้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม (Podcast) หมวดความรู้เรื่อง: อาชญากรรมทางเทคโนโลยี รายการ 18 มงกุฏออนไลน์ โดย นที แววจะโปะ
บนโลกออนไลน์มีภัยสังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่คนอาจยังไม่คาดคิด นั้นก็คือ “บัญชีม้า” ไม่ว่าจะมาในรูปแบบที่คนเต็มใจ หรือแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การที่เราเปิดบัญชีเงินฝากพร้อมกับบัตรกดเงิน (ATM) เพื่อแลกกับค่าตอบแทนหลักพันให้กับคนที่เราไม่เคยพบหน้าหรือไม่คุ้นเคยสนิทกันมากนัก เพียงเพราะได้รับคำแนะนำจากคนรู้จักหรือคำเชิญชวนเพื่อให้ช่วยเปิดบัญชีให้ผู้อื่นนำไปใช้โดยได้รับค่าเปิดบัญชี สุดท้ายโดยหมายเรียก และหมายจับ ถูกดำเนินคดี เพราะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย มิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้รับโอนเงินจากการกระทำความผิดกฎหมาย แล้วมีรูปแบบการกระทำความผิดโทษ ความร้ายแรงอย่างไร? ถ้ารีบไปปิดบัญชีตอนนี้ ยังมีความผิดและต้องรับโทษหรือไม่ เรามีตัวอย่างคดีที่น่าสนใจมาให้ฟังกัน
4 เหตุผล ไม่ควรเปิดบัญชีให้กับผู้อื่น
ปัจจุบันเราจะพบว่ามีประชาชนหลายคนยินยอมเปิดบัญชีม้าให้กับมิจฉาชีพ เพื่อเเลกกับเงินค่าจ้างในการเปิดบัญชี โดยไม่ได้คำนึงถึงผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับตนเองในภายหลัง จึงอยากฝากเตือนประชาชนให้ทราบถึง 4 เหตุผลที่ไม่ควรเปิดบัญชีธนาคารให้กับผู้อื่น ดังนี้
1. เพื่อป้องกันตนเองจากการเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด
2. เป็นการช่วยตัดวงจรการหลอกลวงผู้อื่น หรือบุคคลที่สาม โดยการใช้บัญชีธนาคารของเรามาเป็นตัวกลางในการรับโอนเงิน
3. ไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการออกหมายเรียกให้ไปพบ
4. หากเปิดบัญชีม้า นอกจากต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายแล้ว บางความผิดที่ยอมความไม่ได้ เช่น ความผิด ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน อาจถูกลงโทษจำคุกสูงถึง 10 ปี
ผู้เปิดบัญชี จะถูกชักชวนให้เปิดบัญชีให้ กลุ่มมิจฉาชีพ โดยได้รับเงินเป็นค่าตอบแทน ซึ่งบัญชีดังกล่าว จะถูกนำไปใช้รับโอนเงินจากการกระทำผิดกฎหมาย และผู้เปิดบัญชีก็จะอ้างว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายดังกล่าว แต่หารู้ไม่ว่าสุดท้ายก็จะถูกดำเนินคดีตามมา เพราะบัญชีที่ผู้เปิดบัญชีได้ส่งมอบให้กับมิจฉาชีพนั้น คือหลักฐานของเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะใช้วิธีการชักชวนให้เปิดบัญชี โดยบอกว่าจะได้รับผลตอบแทน จะมาจากคนใกล้ตัว หรือคนรู้จักบนโลกออนไลน์ก็ตาม มีการกล่าวอ้างว่าเป็นการทำงาน ในตำแหน่งบัญชี เลยต้องเปิดบัญชีให้กับผู้ว่าจ้าง มีเงินเข้ามาในบัญชีแบบผิดปกติ โดยผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชี จะเอาสมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม หรือเปิดระบบเข้าใช้ระบบธนาคารออนไลน์ของเรา โดยสามารถถอนเงินโดยที่เราไม่อนุญาตได้เลย
นอกจากนี้บัญชีม้าไม่ได้มีแค่ “บัญชีธนาคาร”เท่านั้น ปัจจุบันมิจฉาชีพมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบหันมาใช้กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-wallet) หรือ กระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี (crytocurrency wallet) ในการกระทำความผิดแทน เพื่อหลบเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่ โดยมิจฉาชีพเริ่มหันมาใช้ “กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์” ในการก่อเหตุมากขึ้น เนื่องจากการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลตัวตนลูกค้าที่จะใช้บริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ยังมีความเข้มงวดไม่มากพอ
ในส่วนของ “กระเป๋าเงินคริปโตเคอเรนซี” มิจฉาชีพมักจะใช้กระเป๋าเงินที่ไม่ได้เปิด ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset exchang) แต่ได้รับอนุญาตให้ใช้ในประเทศไทยได้ ทำการโอน crytocurrency แบบ Peer-to-Peer (P2P) หรือโอนผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ต่างประเทศ ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความล่าช้าในการประสานงาน จนทำให้เกิดความยุ่งยากในการตรวจสอบ

ความผิดและโทษ
อยากเตือนให้หยุดและช่วยกันเป็นกระบอกเสียง ไปยังคนใกล้ชิดและคนที่มีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชี เปิดซิมมือถือฯ เพราะถ้ามีการตรวจสอบแกะรอยพบเส้นทางการเงินของแก๊งมิจฉาชีพ เจ้าของบัญชีเงินฝากที่เป็นผู้เปิดบัญชี อาจถูกดำเนินคดีฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการทำความผิดฐานฉ้อโกงด้วยตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งในกรณีที่ควรรู้ได้ว่าบัญชีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิด เจ้าของบัญชีจะมีความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ อีกด้วย
วิธีป้องกัน
- วิธีที่ 1 อย่าเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นเป็นอันขาด เพียงเพราะหวังว่าจะได้เงินตอนแทน
- วิธีที่ 2 อย่าเชื่อว่างานออนไลน์ ตำแหน่ง พนักงานบัญชี ที่เราต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีทั้งหมด ให้กับผู้ว่าจ้างไปใช้งาน เพราะอาจถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้าได้
- วิธีที่ 3 อย่าให้สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม หรือ สิทธิในการเข้าใช้ธนาคารออนไลน์ของเรากับใครก็ตาม
- วิธีที่ 4 อย่าหลงเชื่อ หรือยินยอมขายบัญชีธนาคารให้กับผู้อื่นโดยเด็ดขาด และหากพบเห็นประกาศรับซื้อขายบัญชี สามารถแจ้งเบาะเเสไปยังสายด่วน 191 หรือ สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง โทรฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- วิธีที่ 5 ถ้าหลงกลเปิดบัญชีไปแล้ว ให้ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน ว่าเราได้เปิดชีแล้วมีนาย A นาย B เอาสมุดบัญชีและบัตร ATM ของเราไปใช้ โดยไม่แน่ใจว่าเอาไปใช้ในด้านใด
- วิธีที่ 6 แจ้งปิดบัญชีที่เปิดกับธนาคารผู้เปิดบัญชี ตอนนี้ ยังไม่สายเกินแก้
อ้างอิง: ประมวลกฎหมายอาญา (มาตรา 83/86), พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 (มาตรา 9/10/11), พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 (มาตรา 5/60)
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารเสี่ยงต่อการกระทำผิดกฎหมายข้อหาอะไร?
รับจ้างเปิดบัญชี – เปิดบัตร – เปิดเบอร์ – เปิดแอพ – ติดคุกหลายปี ปรับหลายแสน!!