กฎหมายน่ารู้ 36 : การดำเนินคดีอาญากับ “ผู้ป่วยจิต” ต้องผ่านกระบวนการตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวช

ความรับผิดอาญาของ “คนบ้า”

1.️กระทำความผิดขณะ “บ้า” + “เป็นคนบ้าจริง” = ไม่ต้องรับโทษ และนำตัวไปรักษาอาการทางจิต

2.️กระทำความผิดขณะ “บ้า” + “เป็นคนบ้าบางเวลา” = รับโทษ แต่ศาลจะลดโทษให้ก็ได้

ลักษณะแบบไหนที่กฎหมายถือว่า “บ้า””คนบ้า”

• ไม่รู้ผิดชอบชั่ว-ดี

• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองไม่ได้

• สติฟั่นเฟือน ป่วยจิต”คนบ้าบางเวลา”

• รู้ผิดชอบชั่ว-ดีอยู่บ้าง

• บังคับการกระทำและจิตใจตัวเองได้บ้าง

• สติไม่ฟั่นเฟือน

ผู้กระทำความผิดต้องตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวชว่า “บ้าจริง” หรือ “แกล้งบ้า” ทั้งก่อนและหลังการพิจารณาลงโทษ

1.ถ้ามีเหตุเชื่อว่า “บ้า” ตำรวจ อัยการ และศาลนำตัวผู้กระทำความผิดไปตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวช

2.ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติจิตเวชระบุว่า “บ้าจริง”ศาลประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี

3.คนบ้าที่ “ต่อสู้คดีได้”นำตัวไปรักษาอาการทางจิตที่โรงพยาบาล

4.ขณะที่ “รักษาอาการทางจิตอยู่”ให้ประเมินความสามารถในการต่อสู้คดี(ซ้ำ)

5.คนบ้า “ต่อสู้คดีได้”นำตัวกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและลงโทษตามกฎหมาย

ความรับผิดอาญาของ “คนบ้า”

1.️กระทำความผิดขณะ “บ้า” + “เป็นคนบ้าจริง” = ไม่ต้องรับโทษ และนำตัวไปรักษาอาการทางจิต

2.️กระทำความผิดขณะ “บ้า” + “เป็นคนบ้าบางเวลา” = รับโทษ แต่ศาลจะลดโทษให้ก็ได้

ข้อมูล : ประมวลกฎหมายกฎหมายอาญา มาตรา 65

Credit : กรมสุขภาพจิตปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต สายด่วน 1323